บทที่ 2
บทที่ 2
วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาค้นคว้าอิสระ
เรื่อง น้ำอิตาเลี่ยนโซดา
คณะผู้จัดทำได้ศึกษาเอกสารและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องดังนี้
2.1
ความรู้เกี่ยวกับ น้ำหวานกลิ่นผลไม้
2.2 ความรู้เกี่ยวกับ โซดา
2.3
ความรู้เกี่ยวกับ ความพึงพอใจ
2.4 ความรู้เกี่ยวกับ น้ำแข็ง
2.5 ความรู้เกี่ยวกับ
น้ำอิตาเลียนโซดา
2.6 ความรู้เกี่ยวกับอาชีพ
2.1 ความรู้เกี่ยวกับ
น้ำหวานกลิ่นผลไม้
2.1.1 น้ำหวานกลิ่นผลไม้คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำน้ำผลไม้ที่ผลิตจากผลไม้มาทำให้เข้มข้น มีลักษณะเป็นน้ำตาลเหลว ข้นหนืด มีกลิ่นรสผลไม้ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเนื่องจากมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ไซรัปผลไม้อาจมีลักษณะขุ่นหรือใสก็ได้ แต่ต้องมีส่วนของน้ำผลไม้ไม่น้อยกว่า 25 เปอร์เซนต์ และมีปริมาณสารที่ละลายน้ำได้อย่างน้อย 65 เปอร์เซนต์ แต่มีความเป็นกรดต่ำ ถ้ามีน้ำตาลน้อยกว่า 68 เปอร์เซนต์ ต้องใช้สารเคมีช่วยในการเก็บรักษา หากต้องการดื่มเป็นเครื่องดื่มต้องทำให้เจือจางก่อนดื่ม ซึ่งควรมีสารที่ละลายน้ำ 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ และมีความเป็นกรด 0.5 - 0.6 เปอร์เซ็นต์
ภาพที่ 2.1.1 น้ำหวานกลิ่นผลไม้
2.2
ความรู้เกี่ยวกับ โซดา
2.2.1 โซดา เกิดจาก การนำเอา
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มาอัดลงไปในน้ำ ที่อุณหภูมิ 50
องศา
โซดา มีฤทธิ์เป็นกรด เรียกว่า กรดคาร์บอนิค ใช้ผสมเครื่องดื่มให้เกิดความซ่า( คาร์บอนไดออกไซด์ จะแยกตัวออกมาจากน้ำโซดา ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้ผสมวิสกี้ เนื่องจาก เอทธิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล( C2H5OH ) ที่ถูกนำไปผสมในน้ำมันแกสโซฮอลด้วยนั้น มีฤทธิ์เป็นด่าง เมื่อผสมกับโซดา ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด( H2CO3 ) ก็จะทำให้ เป็นกลางได้ ( กรด + ด่าง ได้ เกลือ กับ น้ำ ) ความมุ่งหมาย นอกจากความซ่าแล้ว ก็คงจะไม่ให้ แอลกอฮอล์ ลงไปทำลายกรดในกระเพาะอาหาร ด้วยกระมังครับ ไม่งั้นก็จะไม่มีกรดสำหรับย่อยอาหารในกระเพาะ
โซดา มีฤทธิ์เป็นกรด เรียกว่า กรดคาร์บอนิค ใช้ผสมเครื่องดื่มให้เกิดความซ่า( คาร์บอนไดออกไซด์ จะแยกตัวออกมาจากน้ำโซดา ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้ผสมวิสกี้ เนื่องจาก เอทธิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล( C2H5OH ) ที่ถูกนำไปผสมในน้ำมันแกสโซฮอลด้วยนั้น มีฤทธิ์เป็นด่าง เมื่อผสมกับโซดา ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด( H2CO3 ) ก็จะทำให้ เป็นกลางได้ ( กรด + ด่าง ได้ เกลือ กับ น้ำ ) ความมุ่งหมาย นอกจากความซ่าแล้ว ก็คงจะไม่ให้ แอลกอฮอล์ ลงไปทำลายกรดในกระเพาะอาหาร ด้วยกระมังครับ ไม่งั้นก็จะไม่มีกรดสำหรับย่อยอาหารในกระเพาะ
ภาพที่
2.2.1 โซดา
2.3
ความรู้เกี่ยวกับ ความพึงพอใจ
2.3.1
สิ่งที่ทำให้เกิดความพึงพอใจที่เกี่ยวกับลักษณะของงาน ปัจจัยเหล่านี้นำไปสู่ความพอใจในงานที่ทำ
ได้แก่ ความสำเร็จ การยกย่อง ลักษณะงาน ความรับผิดชอบ และความก้าวหน้า
เมื่อปัจจัยเหล่านี้อยู่ต่ำกว่า จะทำให้เกิดความไม่พอใจงานที่ทำ
ถ้าหากงานให้ความก้าวหน้า ความท้าท้าย ความรับผิดชอบบความสำเร็จและการยกย่องแก่ผู้ปฏิบัติงานแล้ว
พวกเขาจะพอใจและมีแรงจูงใจในการทำงานเป็นอย่างมาก
2.4
ความรู้เกี่ยวกับ น้ำแข็ง
2.4.1 น้ำแข็งเป็นชื่อเรียกของสภาวะของแข็งของน้ำซึ่งมักอยู่ในรูปของผลึกของน้ำ
ซึ่งโดยปกติจะมีลักษณะใสหรือมีสีฟ้าขาวใสปนอยู่ด้วยขึ้นอยู่กับการมีสิ่งเจือปนในน้ำแข็งนั้นโดยสภาวะปกติน้ำแข็งจะเกิดขึ้นเมื่อน้ำในรูปของเหลวมีอุณหภูมิต่ำกว่า
0 องศาเซลเซียส
(32 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 273.15 เคลวิน) ที่ ความดันปกติและสามารถแข็งตัวจากสถานะ ก๊าซ โดยไม่ผ่านสถานะ
ของเหลว เลยก็ได้เช่น ปรากฏการณ์ น้ำค้างแข็ง
หรือแม่คะนิ้ง น้ำแข็งในธรรมชาติอยู่ในแหล่งต่างๆเช่นเกล็ดหิมะ ลูกเห็บ
น้ำแข็งย้อย ธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง
และน้ำแข็งขั้วโลกซึ่งน้ำแข็งเป็นส่วนสำคัญของสมดุลภูมิอากาศของโลก
โดยเฉพาะวัฏจักรของน้ำนอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย ตั้งแต่
การใส่น้ำแข็งในน้ำดื่มกีฬาฤดูหนาว จนไปถึง ประติมากรรม น้ำแข็ง
คุณลักษณะในฐานะเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นผลึกอนินทรีย์ที่เป็นของแข็งที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบ, น้ำแข็งถือเป็น แร่ ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย โครงสร้างผลึก ซึ่งปกติขึ้นอยู่กับโมเลกุลของน้ำซึ่งประกอบด้วยอะตอมออกซิเจนอะตอมเดียวที่ถูกยึดเหนี่ยวไว้ด้วยพันธะโควาเลนซ์ถึงสองอะตอมไฮโดรเจน หรือ H-O-H อย่างไรก็ตามคุณสมบัติทางกายภาพหลายอย่างของน้ำและน้ำแข็งจะถูกควบคุมโดยการก่อตัวของพันธะไฮโดรเจนระหว่างอะตอมออกซิเจนและอะตอมไฮโดรเจนที่อยู่ติดกันมันเป็นพันธะที่อ่อนแอ แต่เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมโครงสร้างของทั้งน้ำและน้ำแข็งคุณสมบัติที่ผิดปกติของน้ำแข็งแช่แข็งที่ความดันบรรยากาศที่เป็นของแข็งจะอยู่ที่ประมาณ 9% ที่ความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ความหนาแน่นของน้ำแข็งคือ 0.9167 g / cm³ ที่ 0 ° C ในขณะที่น้ำมีความหนาแน่นที่ 0.9998 g / cm³ ที่อุณหภูมิเดียวกัน
น้ำเป็นของเหลวที่มีความหนาแน่นมากที่สุดเป็นหลักคือ 1.00 g / cm³, ที่ 4° C และจะกลายเป็นความหนาแน่นน้อยก็ต่อเมื่อโมเลกุลของน้ำเริ่มกลายเป็นผลึกรูปทรงหกเหลี่ยมของน้ำแข็งเมื่อถึงจุดเยือกแข็ง
ทั้งนี้เนื่องจากพันธะไฮโดรเจนมีอำนาจเหนือกว่าแรงระหว่างโมเลกุลซึ่งส่งผลให้มีการบรรจุของโมเลกุลขนาดกะทัดรัดกว่าไว้ในของแข็งความหนาแน่นของน้ำแข็งจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยการลดอุณหภูมิลงและมีค่า 0.9340 ³ g / cm ที่ -180 ° C (93 K) ผลของการขยายตัวระหว่างการแช่แข็งสามารถทำให้เกิดสิ่งอันน่าทึ่งและเป็นสาเหตุพื้นฐานของการแข็งตัว-ละลาย ( freeze - thaw ) ของการผุกร่อนของ หิน ในธรรมชาติโดยน้ำแข็งที่นำมาบริโภคนั้นเกิดจากน้ำประปา หรือน้ำสะอาดมาทำให้อุณหภูมิลดลงต่ากว่า 0 องศาเซลเซียส
คุณลักษณะในฐานะเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นผลึกอนินทรีย์ที่เป็นของแข็งที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบ, น้ำแข็งถือเป็น แร่ ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย โครงสร้างผลึก ซึ่งปกติขึ้นอยู่กับโมเลกุลของน้ำซึ่งประกอบด้วยอะตอมออกซิเจนอะตอมเดียวที่ถูกยึดเหนี่ยวไว้ด้วยพันธะโควาเลนซ์ถึงสองอะตอมไฮโดรเจน หรือ H-O-H อย่างไรก็ตามคุณสมบัติทางกายภาพหลายอย่างของน้ำและน้ำแข็งจะถูกควบคุมโดยการก่อตัวของพันธะไฮโดรเจนระหว่างอะตอมออกซิเจนและอะตอมไฮโดรเจนที่อยู่ติดกันมันเป็นพันธะที่อ่อนแอ แต่เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมโครงสร้างของทั้งน้ำและน้ำแข็งคุณสมบัติที่ผิดปกติของน้ำแข็งแช่แข็งที่ความดันบรรยากาศที่เป็นของแข็งจะอยู่ที่ประมาณ 9% ที่ความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ความหนาแน่นของน้ำแข็งคือ 0.9167 g / cm³ ที่ 0 ° C ในขณะที่น้ำมีความหนาแน่นที่ 0.9998 g / cm³ ที่อุณหภูมิเดียวกัน
น้ำเป็นของเหลวที่มีความหนาแน่นมากที่สุดเป็นหลักคือ 1.00 g / cm³, ที่ 4° C และจะกลายเป็นความหนาแน่นน้อยก็ต่อเมื่อโมเลกุลของน้ำเริ่มกลายเป็นผลึกรูปทรงหกเหลี่ยมของน้ำแข็งเมื่อถึงจุดเยือกแข็ง
ทั้งนี้เนื่องจากพันธะไฮโดรเจนมีอำนาจเหนือกว่าแรงระหว่างโมเลกุลซึ่งส่งผลให้มีการบรรจุของโมเลกุลขนาดกะทัดรัดกว่าไว้ในของแข็งความหนาแน่นของน้ำแข็งจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยการลดอุณหภูมิลงและมีค่า 0.9340 ³ g / cm ที่ -180 ° C (93 K) ผลของการขยายตัวระหว่างการแช่แข็งสามารถทำให้เกิดสิ่งอันน่าทึ่งและเป็นสาเหตุพื้นฐานของการแข็งตัว-ละลาย ( freeze - thaw ) ของการผุกร่อนของ หิน ในธรรมชาติโดยน้ำแข็งที่นำมาบริโภคนั้นเกิดจากน้ำประปา หรือน้ำสะอาดมาทำให้อุณหภูมิลดลงต่ากว่า 0 องศาเซลเซียส
ภาพที่
2.4.1 น้ำแข็ง
2.5 ความรู้เกี่ยวกับ
น้ำอิตาเลียนโซดา
2.5.1 อิตาเลี่ยนโซดา
คือเครื่องดื่มน้ำผลไม้เข้มข้น หรือน้ำผลไม้สดคั้นเอาแต่น้ำ
แล้วนำมาผสมตามความชอบของผู้ดื่ม
เพิ่มความสดชื่นให้เย็นด้วยน้ำแข็งบดหยาบเติมด้วยน้ำโซดาอิตาเลียนโซดาจริงๆไม่ใช่เครื่องดื่มที่เกิดจากชาวอิตาลี่
แต่เกิดจากชาวอเมริกันที่ได้นำน้ำเชื่อมยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตในอิตาลี่
มาทำเครื่องดื่มโดยมีการนำมาผสมกับน้ำอัดลม(โซดา)จึงเรียกชื่อเครื่องดื่มประเภทนี้ตามแหล่งที่มาของน้ำเชื่อมที่นำมานั่นเอง
อยากรู้ละซิว่ายี่ห้ออะไร ปาร์ตี้ ถ้าคุณจะเรียกเครื่องดื่มผสมชนิดนี้ว่า โซดาคลับ
โซดาฟรุ๊ตตี้ ก็ไม่น่าจะ ส่วนเครื่องดื่มที่นำมาปรุงแต่งพร้อมดื่มมีรสซ่าๆ
เป็นที่นิยมดื่มกันนั้น เป็นแนวๆเดียวกับชื่อที่ผู้เขียนได้ให้ข้อมูลไว้
แต่เครื่องดื่มที่ปรุงใหม่ๆแก้วต่อแก้วนั้นจะให้ความรู้สึกที่น่าดื่มและให้ลูกเล่นในการทำเครื่องดื่มและเพิ่มสไตล์ให้กับผู้ดื่มเครื่องดื่มได้อีกด้วย
เพราะวิธีการดื่มหรือรวมไปถึงการกินแต่ละสิ่งย่อมมีขั้นตอนหรือการปรุงต่างๆกันไป
การที่คนเราจะหันมาใส่ใจและเรียนรู้วัฒนธรรมการดื่มกิน
ย่อมเป็นเรื่องปกติของมนุษย์อย่างๆเราที่ต้องเรียนรู้การชงอิตาเลี่ยนโซดามักจะนิยมชงให้แยกส่วนของน้ำหวานและโซดาที่ชัดเจน
มักทำรสชาติไม่หวานจัด เน้นความซ่ามากกว่ารสหวานเข้ม
แต่จะเอาใจคนชอบหวานก็ไม่ได้มีข้อ ให้ความสดชื่นของผู้บริโภค
มีรสหวานเปรี้ยวจากน้ำผลไม้ ราคาไม่แพง ซึ่งสามารถใช้เวลาในการผลิตไม่มากนัก
มีสีสันสวยงาม ซึงเป็นการช่วยผู้ปกครองหารายได้พิเศษ เพื่อใช้ในการศึกษาเร่าเรียน
โดยการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพิ่มทักษะการหาความรู้ด้วยตัวเอง เพื่อที่อนาคตข้างหน้าจะได้มีความรู้ติดตัวไป
ภาพที่
2.5.1 น้ำอิตาเลียนโซดา
2.6 ความรู้เกี่ยวกับอาชีพ
2.6.1 อาชีพ หมายถึง การทำกิจกรรม
การทำงาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคม และมีรายได้ตอบแทน โดยอาศัยแรงงาน
ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ แตกต่างกันไป กลุ่มอาชีพตาม
ลักษณะการประกอบอาชีพ มี 2 ลักษณะ คือ อาชีพอิสระ และอาชีพรับจ้าง 1
อาชีพอิสระ หมายถึง อาชีพทุกประเภทที่ผู้ประกอบการดำเนินการด้วยตนเอง
แต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นกลุ่ม อาชีพอิสระเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก
แต่หากมีความจำเป็นอาจมีการจ้างคนอื่นมาช่วยงานได้ เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน
และจำหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเองทุกเรื่อง ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานอาชีพ
เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ เช่น ขายอาหาร ขายของชำ
ซ่อมรถจักรยานยนต์ ฯลฯ ในการประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้
ความสามารถในเรื่อง การบริหาร การจัดการ เช่น การตลาด ทำเลที่ตั้ง เงินทุน
การตรวจสอบ และประเมินผล เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องมีความอดทนต่องานหนัก
ไม่ถ้อถอยต่อ ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์
และมองเห็นภาพการดำเนินงาน ของตนเองได้ทะลุปรุโปร่ง 2 อาชีพรับจ้าง
หมายถึง อาชีพที่มีผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการ โดยตัวเองเป็นผู้รับจ้าง ทำงานให้
และได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน อาชีพรับจ้างประกอบด้วย บุคคล 2
ฝ่าย ซึ่งได้ตกลงว่าจ้างกัน บุคคลฝ่ายแรกเรียกว่า quotนายจ้าง quotหรือผู้ว่าจ้าง บุคคลฝ่ายหลังเรียกว่า quotลูกจ้าง quotหรือผู้รับจ้าง
มีค่าตอบแทนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ ผู้รับจ้างเรียกว่า quotค่าจ้าง quotการประกอบอาชีพรับจ้าง
โดยทั่วไปมีลักษณะ เป็นการรับจ้างทำงานในสถาน ประกอบการหรือโรงงาน
เป็นการรับจ้างในลักษณะการขายแรงงาน โดยได้รับค่าตอบ แทนเป็นเงินเดือน
หรือค่าตอบแทนที่คิดตามชิ้นงานที่ทำได้ อัตราค่าจ้างขึ้นอยู่กับการกำหนด ของเจ้าของสถานประกอบการ
หรือนายจ้าง การทำงานผู้รับจ้างจะทำอยู่ภายในโรงงาน ตามเวลาที่นายจ้างกำหนด
การประกอบอาชีพรับจ้างในลักษณะนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องเสี่ยง กับการลงทุน
เพราะลูกจ้างจะใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่นายจ้างจัดไว้ให้ทำงานตามที่นายจ้าง กำหนด
แต่มีข้อเสีย คือ มักจะเป็นงานที่ทำซ้ำ ๆ เหมือนกันทุกวัน และต้องปฏิบัติตามกฎ
ระเบียบของนายจ้าง ในการประกอบอาชีพรับจ้างนั้น
มีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้ออำนวยให้ผู้ประกอบอาชีพ รับจ้างมีความเจริญก้าวหน้าได้
เช่น ความรู้ ความชำนาญในงาน มีนิสัยการทำงานที่ดี มีความกระตือรือร้น มานะ อดทน
ในการทำงาน ยอมรับกฎเกณฑ์และเชื่อฟังคำสั่ง มีความซื่อสัตย์ สุจริต
ความขยันหมั่นเพียร รับผิดชอบ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รวมทั้ง สุขภาพอนามัยที่ดี
อาชีพต่าง ๆ ในโลกมีมากมาย หลากหลายอาชีพ ซึ่งบุคคลสามารถจะเลือกประกอบ
อาชีพได้ตามความถนัด ความต้องการ ความชอบ และความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ ประเภทใด
จะเป็นอาชีพอิสระ หรืออาชีพรับจ้าง ถ้าหากเป็นอาชีพที่สุจริตย่อมจะทำให้
เกิดรายได้มาสู่ตนเอง และครอบครัว ถ้าบุคคลผู้นั้นมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ตลอดจน
มีความรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ จะทำให้มองเห็นโอกาสในการเข้าสู่อาชีพ
และพัฒนา อาชีพใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ภาพที่ 2.2.1 อาชีพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น